Divergence: เครื่องมือคาดการณ์การกลับตัวของราคา

บทความโดย เอิร์ท ภาสวุฒิ

Divergence-01

สำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มดู กราฟราคาหุ้น หลายครั้งอาจจะสงสัยว่ามีสัญญาณอะไรบ้างที่บอกว่าราคาอาจกำลังจะเปลี่ยนทิศทาง? คำตอบหนึ่งที่สำคัญก็คือ Divergence ครับ

Divergence คือ “ความขัดแย้ง” ที่เกิดขึ้นระหว่าง ราคา กับ Indicator อย่างเช่น MACD 📉 โดยปกติแล้ว ทั้งคู่มักจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกัน แต่เมื่อใดก็ตามที่พวกเขาเริ่มสวนทางกัน นั่นคือสัญญาณเตือนว่าเทรนด์เดิมกำลังจะอ่อนแรงลง

Divergence มีกี่ประเภท?

Divergence มี 2 ประเภทหลักๆ ที่เราควรทำความรู้จัก:

1. Bullish Divergence (สัญญาณขาขึ้น)

นี่คือสัญญาณที่บอกว่าราคาอาจจะกำลัง เปลี่ยนจากขาลงเป็นขาขึ้น
ราคา: กำลังทำจุดต่ำสุดใหม่ (New Low) ลงไปเรื่อยๆ
MACD: กลับทำจุดต่ำสุดที่สูงขึ้น (High Low) ไม่สามารถลงตามราคาได้

 

ภาพตัวอย่าง: ลองดูที่กรอบสีเขียวในกราฟ  จะเห็นว่าราคา SET Index ทำจุดต่ำสุดใหม่หลายครั้ง แต่เส้น MACD กลับยกตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนว่าแรงขายกำลังอ่อนตัวลง และมีโอกาสที่ราคาจะดีดกลับขึ้นไป

2. Bearish Divergence (สัญญาณขาลง)

นี่คือสัญญาณที่บอกว่าราคาอาจจะกำลัง เปลี่ยนจากขาขึ้นเป็นขาลง
ราคา: กำลังทำจุดสูงสุดใหม่ (New High) ขึ้นไปเรื่อยๆ
MACD: กลับทำจุดสูงสุดที่ต่ำลง (Low High) ไม่สามารถขึ้นตามราคาได้

 

ภาพตัวอย่าง: ดูที่กรอบสีแดงในกราฟ  จะเห็นว่าราคาของ SET Index ยกตัวสูงขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ แต่ MACD กลับทำจุดสูงสุดที่ต่ำลง ซึ่งเป็นสัญญาณว่าแรงซื้อเริ่มหมด และมีโอกาสที่ราคาจะปรับตัวลง

ทำไมต้องสนใจ Divergence?

Divergence ถือเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่นักลงทุนใช้คาดการณ์การกลับตัวของราคา การเข้าใจความแตกต่างระหว่าง Bullish และ Bearish Divergence จะช่วยให้คุณมีโอกาสเข้าทำกำไรได้ก่อนใคร

 

ลองใช้เครื่องมือนี้ในโปรแกรม ASPEN สิครับ! เพียงแค่เพิ่ม Indicator MACD เข้าไปในกราฟของหุ้นที่คุณสนใจ แล้วลองสังเกตดูว่ามีช่วงไหนที่ราคาและเส้น MACD เดินสวนทางกันหรือไม่!

แชร์ไปที่: