📊 เทรดอะไรก็ได้ แค่เข้าใจ 4 อินดิเคเตอร์นี้!

บทความโดย เอิร์ท ภาสวุฒิ

หลายคนเริ่มต้นดูกราฟแล้วรู้สึกว่า “มันซับซ้อนเกินไป” เส้นเต็มไปหมด จนไม่รู้ว่าจะ “ซื้อ” หรือ “ขาย” ยังไงดี แต่จริง ๆ แล้ว เครื่องมือทางเทคนิคไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้นครับ


ถ้าเข้าใจอินดิเคเตอร์พื้นฐานแค่ 4 ตัวนี้ให้ดี คุณจะเริ่ม “มองเห็นภาพของราคา” ชัดขึ้น รู้ว่าตลาดกำลังจะไปทางไหน และควรรับมือยังไง

เพราะสุดท้าย… การอ่านกราฟให้เป็น ไม่ใช่เรื่องของการเดา แต่มันคือ “การเข้าใจพฤติกรรมของราคา”

image (2)

1️⃣ เส้นค่าเฉลี่ย (Moving Average: MA)

อินดิเคเตอร์ที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง ช่วยให้เราเห็นแนวโน้มของราคา ว่าตลาดตอนนี้อยู่ใน “ขาขึ้น” หรือ “ขาลง”

  • ราคายืนเหนือเส้น MA และเส้นมีทิศทางวิ่งขึ้น แนวโน้มขาขึ้น (Uptrend)
  • ราคาหลุดต่ำกว่าเส้น MA และเส้นมีทิศทางวิ่งลง แนวโน้มขาลง (Downtrend)

สัญญาณซื้ออย่างง่าย: เมื่อราคาตัดขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ย

💡 เคล็ดลับ:

  • MA ระยะสั้น (เช่น 10 วัน) เหมาะกับการเทรดระยะสั้น
  • MA ระยะกลาง–ยาว (เช่น 25 วันขึ้นไป) เหมาะกับการถือระยะกลางถึงยาว

2️⃣ MACD (Moving Average Convergence Divergence)

MACD เป็นอินดิเคเตอร์ที่ใช้ “วัดโมเมนตัมของราคา” ช่วยให้เราเห็นทั้ง ทิศทางแนวโน้ม และ แรงซื้อแรงขาย ในตลาดได้ชัดขึ้น

  • MACD > 0 (เหนือเส้นศูนย์) สะท้อนแรงซื้อและแนวโน้มขาขึ้น
  • MACD < 0 (ใต้เส้นศูนย์) สะท้อนแรงขายและแนวโน้มขาลง

สัญญาณซื้อเกิดเมื่อเส้น MACD ตัดขึ้นเหนือเส้น Signal

💡 เคล็ดลับ: การตั้งค่า MACD ใช้ (12, 26, 9) เป็นค่ามาตรฐานที่เทรดเดอร์ส่วนใหญ่ใช้วิเคราะห์

3️⃣ RSI (Relative Strength Index)

RSI เป็นอินดิเคเตอร์ที่บอก “ความแข็งแกร่งของราคา” หรือพูดง่าย ๆ คือช่วยดูว่า ตอนนี้แรงซื้อหรือแรงขาย มากกว่ากัน

  • RSI > 70 อยู่ในเขต Overbought (ราคาขึ้นแรงเกินไป อาจใกล้พักตัว)
  • RSI < 30 อยู่ในเขต Oversold (ราคาลงแรงเกินไป มีโอกาสดีดกลับ)

 

โดย RSI จะใช้งานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เมื่อใช้คู่กับแนวรับ–แนวต้านสำคัญ เพราะมันช่วยให้เราเห็นจังหวะที่ “แรงของราคาเริ่มเปลี่ยนฝั่ง” ได้ชัดกว่าเดิม

💡 เคล็ดลับ: อย่าดูแค่ค่าตัวเลข ดูบริบทของกราฟด้วยถ้า RSI ที่อยู่เหนือ 70 ในหุ้นขาขึ้นแรง ไม่ได้แปลว่าต้องขายเสมอ

แต่อาจหมายถึง “โมเมนตัมยังแข็งแรง” ก็ได้

4️⃣ Stochastic Oscillator (Slow Stochastic)

อินดิเคเตอร์ที่ใช้ “จับจังหวะซื้อ–ขายระยะสั้น”
โดยดูจากตำแหน่งราคาปิดเทียบกับกรอบราคาสูงสุด–ต่ำสุดในช่วงที่ผ่านมา

  • %K ตัดขึ้นเหนือ %D สัญญาณซื้อ
  • %K ตัดลงต่ำกว่า %D สัญญาณขาย

💡 เคล็ดลับ: Stochastic จะให้สัญญาณแม่นยำมากขึ้น ถ้าใช้ร่วมกับอินดิเคเตอร์แนวโน้ม เช่น MA หรือ MACD
เพราะช่วยกรองจังหวะได้ชัดว่า สัญญาณซื้อนั้นสวนเทรนด์หลักหรือไม่ และทำให้เราจับจังหวะเข้า–ออกได้มั่นใจกว่าเดิม

📊 เครื่องมือเหล่านี้ใช้ได้จริงกับ หุ้น ทองคำ บิตคอยน์ และฟิวเจอร์!

การที่คุณเข้าใจอินดิเคเตอร์เหล่านี้คือการที่คุณกำลัง “สร้างระบบเทรดที่มั่นคงให้ตัวเอง!”
อย่าปล่อยให้ความไม่รู้…ทำให้คุณพลาดโอกาสทำกำไร 💥

🚀 อยากเข้าใจลึกซึ้งกว่านี้?

มาเรียนรู้กลยุทธ์การ ผสมผสานอินดิเคเตอร์ เพื่อ “คัดหุ้นเด่นตั้งแต่ต้นรอบ” ใน

📘 คอร์ส “อ่านกราฟเป็น เทรดได้จริง”

โดย ช.โชติวงศ์ เพ็ชญไพศิษฐ์
ผู้เชี่ยวชาญด้านกราฟเทคนิค

 

📅 ตารางเรียน:

  • 17 พ.ย. 68 → ปูพื้นฐานกราฟเทคนิค + Mindset การลงทุน

  • 19 พ.ย. 68 → กลยุทธ์ซื้อ–ขายด้วย EMA / MACD / RSI / SLO STO

  • 21 พ.ย. 68 → วิเคราะห์แนวโน้มด้วย Price Pattern / Trendline / Fibonacci

  • 23 พ.ย. 68 → Workshop เต็มวัน “คัดหุ้นเด่น – แก้พอร์ต – วางแผนเทรดจริง”

 

📈 เครื่องมือ: Aspen Pro

💻 เรียนผ่าน: Google Meet

📍 เหมาะสำหรับ: นักลงทุนที่ต้องการเข้าใจกราฟอย่างลึกซึ้งและใช้ได้จริง

ระยะเวลา: 12 ชั่วโมง (รวม Workshop) ดูย้อนหลังได้

 

💰 ราคา 5,900 บาท

  • ฟรี! Aspen Pro 1 เดือน 🎁


พิเศษ! สมัครภายใน 31 ต.ค. 68
รับสิทธิ์ Early Bird เพียง 4,900 บาท

 

📞 สนใจสมัคร / สอบถามเพิ่มเติม
LINE: @ThaiQuest
โทร: 02-651-4747

 

🔥 อย่ารอช้า! ลงทะเบียนเพื่อติดอาวุธให้ตัวเอง
และก้าวสู่การเป็น “นักลงทุนมืออาชีพ” วันนี้เลย!

แชร์ไปที่: