สถานการณ์ตลาดหุ้นไทย (SET) ในวันนี้มีอาการ ‘อ่อนแอ’ ให้เห็น แม้ว่าเมื่อวานนี้ SET จะปรับตัวขึ้นได้จากการซื้อสุทธิของต่างชาติ (ประมาณ 800 กว่าล้านบาท) และกองทุน (ประมาณ 700 กว่าล้านบาท) แต่ภาพรวมในวันนี้เอเชียอยู่ในแดนลบเกือบทั้งหมด
1. จุดวัดใจ SET: หากวันนี้ SET ปิดในแดนลบเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้า จะเป็นสัญญาณไม่ดีที่เหมือนการสร้างยอดที่เตี้ยลง หากสัปดาห์หน้า SET หลุด 1270 อย่างชัดเจน ถือเป็นอาการเสี่ยงเข้าสู่ขาลง สำหรับภาพที่สวยงาม กองทุนต้องซื้อหนักจน SET ชนะยอดเก่าที่ประมาณ 1313 ให้ได้
2. วัฏจักรตลาด: ควรระวัง เนื่องจากเดือนกันยายนถึงเดือนตุลาคม มักจะเกิดการย่อตัวของ SET ซึ่งหากลงจริง อาจลงต่อเนื่องอย่างน้อย 1 เดือน
3. แรงกดดันจากต่างชาติ: แม้ต่างชาติจะมีการซื้อกลับมาบ้างในช่วงสั้น ๆ แต่ส่วนใหญ่มักเป็นการซื้อกลับแบบ Technical Rebound เท่านั้น และจะกลับไปสลับขายมากกว่าซื้อในระยะเวลาที่นานกว่า ดังนั้น แรงขายที่ยังคงรินออกมาของต่างชาติยังคงเป็นปัจจัยกดดันสำคัญ ในขณะที่ กองทุนเป็นพลังหลักที่คอยหนุน SET มาตลอดตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคม
4. แนวโน้มตลาดต่างประเทศ: ตลาดสำคัญเริ่มส่งสัญญาณเตือน โดยเฉพาะ ดาวโจนส์ ที่หลุดค่าเฉลี่ย 5 วันและ 10 วันลงมา และต้องระวังการหลุดแนวรับสำคัญที่ 45,700 ซึ่งจะเปลี่ยนจากขาขึ้นเป็นขาลงได้ ส่วน ห่างเส็ง ต้องระวังหากปิดต่ำกว่า 26,000 ก็จะเสี่ยงเข้าสู่ขาลงเช่นกัน
5. ค่าเงินบาท: เป็นปัจจัยกดดัน SET หากอ่อนค่าเกิน 32.5–32.6 เมื่อไหร่ จะเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าหลักเป็นเดือน
ทองคำ: อยู่ในขาขึ้นที่แข็งแกร่ง แต่ระวังภาวะ Overbought ในกราฟรายวัน ซึ่งอาจทำให้เกิดความผันผวนระยะสั้นได้ง่าย แนวรับสำคัญคือ 3,700
น้ำมัน: ยังคงแกว่งตัวในกรอบเดิมระหว่าง 65 (กรอบล่าง) และ 70 (กรอบบน)
กลุ่มปิโตรเคมี: ตีกลับมายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 10 วันและ 25 วันได้อีกครั้ง ต้องลุ้นว่าจะไปต่อได้หรือไม่ แต่หากหลุดฐาน 540 จะถือว่ามีโอกาสเป็นขาลง
OR: วันนี้ขึ้นแรงกลับมายืนเหนือค่าเฉลี่ย 10 วันและ 25 วันได้ ต้องลุ้นว่าจะสามารถทะลุยอดเดิมที่ 14.6 – 14.7 บาทได้หรือไม่
KTB: กำลังวิ่งแบบ Sideways ใกล้ค่าเฉลี่ย 25 วัน หากปิดใต้ 24.50 บาท จะเป็นสัญญาณเลือกทางลงอย่างชัดเจน
ใช้ Aspen เพื่อดูกราฟแบบเรียลไทม์ พร้อมตั้ง Alert แจ้งเตือนทันทีที่ SET เสี่ยงหลุดแนวรับหรือทะลุแนวต้าน
แชร์ไปที่:
