ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดพุ่งขึ้น +432.43 จุด ขณะที่ S&P500 และ Nasdaq ปิดตลาดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ การปรับตัวขึ้นครั้งนี้ได้รับแรงหนุนจากความหวังเกี่ยวกับการทำข้อตกลงทางการค้า ซึ่งกระตุ้นให้นักลงทุนกลับมาเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น
สัปดาห์ที่ผ่านมาแรงซื้อจากนักลงทุนต่างชาติและกองทุนช่วยผลักดันให้ดัชนี SET ฟื้นตัวขึ้น แต่สุดท้าย SET ไม่สามารถยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันบริเวณ 1,120 จุด ได้ เนื่องจากแรงขายจากทั้งนักลงทุนต่างชาติและกองทุนในวันศุกร์ กดให้ SET ปรับตัวลงแรง
สถานการณ์ดังกล่าวยังสะท้อนถึงแนวโน้มหลักของต่างชาติและกองทุนที่ยังคงมีทิศทาง “ขายมากกว่าซื้อ” ทำให้บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยยังคงมีความเปราะบาง
ในสัปดาห์นี้ นักลงทุนต้องติดตามว่า SET จะสามารถรีบาวด์กลับมาได้หรือไม่ โดยมี 2 แนวโน้มหลักที่ต้องจับตา ได้แก่
หาก SET เคลื่อนไหวในกรอบแคบและ “วิ่งออกข้าง” อาจต้องรอการเลือกทิศทางขึ้นหรือลงในระยะถัดไป
แต่หากไม่สามารถยืนเหนือแนวรับสำคัญได้ มีโอกาสที่ SET จะ หลุดระดับ 1,050 จุด และสร้างจุดต่ำใหม่ โดยอาจถอยลงไปทดสอบแนวรับที่ 1,000 จุด หรือแม้กระทั่ง 969 จุด ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดในช่วงวิกฤตโควิด-19
กลยุทธ์แนะนำ: นักลงทุนไม่จำเป็นต้องรีบร้อนเข้าซื้อหุ้น ควรรอให้ดัชนี SET แสดงสัญญาณ “เป็นขาขึ้นชัดเจน” ก่อน จึงค่อยทยอยเพิ่มน้ำหนักการลงทุน เพื่อลดความเสี่ยงในการถือหุ้นช่วงตลาดยังไม่ฟื้นตัวอย่างมั่นคง
อย่าปล่อยให้พอร์ตของคุณเสี่ยงไปกับแรงขายของต่างชาติหรือความผันผวนของ SET!
ทดลองใช้ Aspen เพื่อติดตามดัชนี SET, Dow Jones, หุ้นรายตัว และกระแสเงินทุนต่างชาติแบบเรียลไทม์ พร้อมเครื่องมือวิเคราะห์กราฟเทคนิคครบครัน ช่วยคุณจับตาแนวรับ–แนวต้านสำคัญ และวางกลยุทธ์ลงทุนได้แม่นยำยิ่งขึ้น
ไทยเควสท์ ใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดบนเว็บไซต์ รวมทั้งเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน ท่านสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายคุกกี้