ปัจจัยหนุน: ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกทำ สถิติสูงสุดใหม่ อย่างต่อเนื่องในวันศุกร์ (24 ต.ค.) ที่ผ่านมา โดยได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่ออกมาต่ำกว่าคาด ซึ่งสนับสนุนการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน
แนวโน้มวันนี้ (27 ต.ค.): ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ ดีดตัวขึ้นกว่า 200 จุด ในช่วงเช้าวันนี้ โดยมีปัจจัยบวกเพิ่มเติมจากสัญญาณบ่งชี้ถึงความคืบหน้าในการ เจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ
มุมมองทางเทคนิค: กราฟดาวโจนส์สร้างยอดสูงใหม่และยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยทุกเส้น โดยมี MACD อยู่ในแดนบวก (MACD>0) และอยู่เหนือเส้น Signal บ่งชี้ถึง ภาวะขาขึ้นที่แข็งแกร่ง หากสัปดาห์นี้ยังคงปรับขึ้นต่อ Stochastic จะเริ่มเข้าสู่เขต Overbought ในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม หากเกิดการย่อพักตัวในปลายสัปดาห์นี้หรือต้นสัปดาห์หน้า ก็คาดว่าจะเป็นเพียง การย่อพักตัวสั้นๆ ในลักษณะขาขึ้น เท่านั้น
ภาวะตลาด: ตลาดหุ้นไทย (SET) มีการพักตัวแบบ “วิ่งออกข้าง” (Sideway) มาตั้งแต่ปลายเดือนกันยายน แสดงให้เห็นว่าตลาดยังคงรักษาฐานไว้ได้และ ไม่พลิกเป็นขาลง
แนวโน้ม: SET มีโอกาสกลับมาเป็นขาขึ้นได้อีกครั้ง โดยจะขึ้นอยู่กับ แรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติที่เริ่มกลับเข้ามา หากต่างชาติซื้อสุทธิอย่างต่อเนื่อง เราอาจได้เห็นดัชนี SET ไปถึงระดับ 1,350 จุด ได้ในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้
—
ภาวะตลาด: หลังจากราคาทองคำโลกปรับลงแรงเพื่อคลายภาวะ Overbought ตอนนี้ราคายังคง แกว่งตัวออกข้าง (Sideway)
กรอบราคา:
แนวต้าน (กรอบบน): เส้นค่าเฉลี่ย 10 วัน ที่ระดับประมาณ 4,124 – 4,182 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์
แนวรับ (กรอบล่าง): เส้นค่าเฉลี่ย 25 วัน ที่ระดับประมาณ 4,008 – 4,013 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์
ข้อสังเกต: ต้องรอลุ้นว่าราคาทองคำจะ เลือกขึ้นต่อ ทะลุแนวต้าน หรือ เลือกลงต่อ ทะลุแนวรับ
ถึงแม้ภาพรวมของ SET จะมีแนวโน้มเป็นขาขึ้น แต่ตลาดอาจมีการสลับตัวเล่นเป็นช่วงๆ ดังนั้น ควรลงทุนด้วยความระมัดระวัง และติดตามกระแสเงินทุนต่างชาติอย่างใกล้ชิด
วิเคราะห์ตลาด–ดูทิศทางเงินทุน–เข้าใจอินดิเคเตอร์สำคัญแบบนักลงทุนมืออาชีพเพื่อยกระดับการเทรดของคุณให้ “แม่น–มั่น–มีกลยุทธ์” 👉 สมัครเรียนวันนี้
แชร์ไปที่:
