สรุปมติกนง.ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.75% ต่อปี

บทความโดย ทีม ThaiQuest

24 มิ.ย. 2568

08.30 น.

กนง. มีมติ 6 : 1 ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.75% ต่อปี

คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติ 6 ต่อ 1 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.75% ต่อปี โดยมี 1 เสียงให้ลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% จาก 1.75% เป็น 1.50%

แนวโน้มเศรษฐกิจไทย

  • เศรษฐกิจไทยในครึ่งแรกปี 2568 ขยายตัวดีกว่าที่ประเมินไว้จากภาคการผลิตและการเร่งส่งออกสินค้า แต่มีแนวโน้มขยายตัวชะลอลงในระยะถัดไป

  • มีความเสี่ยงที่การส่งออกสินค้าจะได้รับผลกระทบจากนโยบายภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ รวมทั้งความเสี่ยงจากปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์และปัจจัยภายในประเทศ

แนวโน้มเงินเฟ้อ

  • อัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มอยู่ในระดับต่ำจากปัจจัยด้านอุปทาน
  • อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2568 และ 2569 คาดว่าจะอยู่ในระดับต่ำที่ 0.5% และ 0.8% ตามลำดับ จากหมวดพลังงานและอาหารสด
  • อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในปี 2568 และ 2569 อยู่ที่ 1.0% และ 0.9% ตามลำดับ โดยอัตราเงินเฟ้อที่ต่ำเป็นผลจากปัจจัยด้านอุปทานเป็นหลัก
  •  

สินเชื่อและภาคการเงิน

  • สินเชื่อโดยรวมหดตัว สถาบันการเงินระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อโดยเฉพาะ SMEs และครัวเรือนกลุ่มรายได้ต่ำ

  • คุณภาพสินเชื่อปรับด้อยลงโดยเฉพาะสินเชื่อ SMEs และสินเชื่อที่อยู่อาศัย ประกอบกับความต้องการของภาคธุรกิจที่ลดลงและการชำระคืนหนี้ที่เพิ่มสูงขึ้น

  • อัตราดอกเบี้ยในตลาดการเงินและในระบบสถาบันการเงินปรับลดลงตามการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในช่วงที่ผ่านมา

  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทเทียบดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากปัจจัยภายนอกในทิศทางเดียวกับสกุลภูมิภาค

ความเห็นของคณะกรรมการเกี่ยวกับนโยบายการเงิน

  • กรรมการส่วนใหญ่เห็นควรคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย โดยให้ความสำคัญกับจังหวะเวลาและประสิทธิผลของนโยบายการเงินภายใต้ความไม่แน่นอนสูงและขีดความสามารถของนโยบายการเงินที่จำกัด

  • กรรมการ 1 ท่านเห็นควรปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ต่อปี เพื่อลดภาระดอกเบี้ยและเอื้อต่อการปรับตัวของกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่อ่อนแอลง

การคาดการณ์เศรษฐกิจไทยในอนาคต

  • เศรษฐกิจไทยในปี 2568 และ 2569 มีแนวโน้มขยายตัวที่ 2.3% และ 1.7% ตามลำดับ โดยการขยายตัวในปีนี้เป็นผลจากการส่งออกที่ขยายตัวได้สูงจากกลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และสินค้าที่เร่งส่งออกไปสหรัฐฯ

  • เศรษฐกิจมีแนวโน้มขยายตัวชะลอลงตั้งแต่ครึ่งหลังปี 2568 เนื่องจากการบริโภคภาคเอกชนชะลอลงและจำนวนนักท่องเที่ยวปรับลดลง

มุมมองต่อความเสี่ยงและทิศทางนโยบาย

คณะกรรมการฯ ประเมินว่าแนวโน้มเศรษฐกิจยังมีความไม่แน่นอนสูง และพร้อมปรับนโยบายการเงินให้เหมาะสมกับแนวโน้มและความเสี่ยงของเศรษฐกิจและเงินเฟ้อในระยะข้างหน้า

อ้างอิงข้อมูลจาก: ธนาคารแห่งประเทศไทย (25 มิ.ย.)

แชร์ไปที่: